“วันพ่อแห่งชาติ” เพิ่งไปจะผ่านไปหมาด ๆ หลายคนคงได้มีโอกาสแสดงความรักความห่วงใยต่อคุณพ่อกันอย่างอบอุ่น เช่นเดียวกับ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” แชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิงคนล่าสุดแห่งวัน แชมเปียนชิพ ที่เพิ่งโชว์สกิลจัดซับมัชชินนักมวยปล้ำสาวแดนโรตี “ริตู โฟกาต” อย่างน่าทึ่งในศึก ONE: WINTER WARRIORS เมื่อ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา

โดยเธอถือโอกาสนำชัยชนะและเงินรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้มอบเป็นของขวัญวันพ่อในปีนี้ซะเลย แม้จะยังไม่ได้พบหน้าคุณพ่อ แต่ แสตมป์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กแสดงความรักถึงคุณพ่อ “นายชาญชัย พานทอง” ความว่า “สวัสดีวันพ่อ รักพ่อนะจุ้ฟๆ ของขวัญวันพ่อ ฝากไว้ให้แม่แล้วนะ”

กว่าจะได้ชื่อว่าเป็นนักสู้หญิงชาวไทยคนแรกของ ONE ที่ได้ครองเข็มขัดแชมป์ในสามประเภทกีฬา (มวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง/MMA) แสตมป์ เผยว่าคุณพ่อคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดของเธอในวันนี้
แสตมป์ เริ่มหัดสวมนวมและเตะกระสอบตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ จากความกดดันที่โดนกลั่นแกล้งที่โรงเรียน พ่อของเธอซึ่งเป็นอดีตนักมวยจึงสอนมวยไทยให้เพื่อป้องกันตัว หลังจากนั้น แสตมป์ ก็ใช้วิชามวยไทยเดินตามรอยของพ่อบนสังเวียนอย่างเต็มตัวจนถึงทุกวันนี้

นอกจากเป็นครูสอนมวยคนแรกในชีวิตแล้ว พ่อยังเป็นตัวอย่างในทุก ๆ ด้านในการดำเนินชีวิต โดย แสตมป์ เผยว่าตัวตนของเธอที่เป็นทุกวันนี้ก็ได้รับการถ่ายทอดและหล่อหลอมจากการพร่ำสอนและการทำให้ดูเป็นตัวอย่างของผู้เป็นพ่อนั่นเอง

“แสตมป์ มีอะไรเหมือนพ่อหลายอย่าง ทั้งสไตล์การชกมวย และเรื่องจิตใจที่หนักแน่น สู้ไม่ถอย พ่อเป็นคนไม่ยอมใครง่าย ๆ จะยอมก็แต่คนที่มีบุญคุณเท่านั้น อาจเป็นเพราะตอนเด็ก ๆ พ่อจะสอนแสตมป์หลายเรื่อง ทำให้เรามีความสนิทสนม จนได้รับอิทธิพลเหล่านี้มาเต็ม ๆ”

“เวลาที่พ่อแม่มาหา หรือแสตมป์กลับไปเยี่ยมบ้าน พ่อจะไม่ค่อยพูดอะไร แต่ตอนจะต้องแยกจากกันในวันสุดท้าย พ่อมักจะทิ้งคำพูดเอาไว้ให้คิดตลอด ซึ่งที่จำได้ดีและยึดเป็นคำสอนติดตัวทุกวันนี้ คือที่พ่อบอกว่า เรามาอยู่นี่ ต้องทำให้ได้ ต้องพยายาม ขอให้ทำให้ได้ทุกอย่างที่หวังไว้”