เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (13 ต.ค.) รายการโหนกระแสที่มี “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกร ได้เชิญ “โบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ผู้จัดการแข่งขันมวยรายการนี้ รวมถึง “ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์” มาพูดความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ประเด็นสำคัญมีดังนี้
“โบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เล่าที่มาที่ไปว่า ได้เจอกับฟ้าวันใหม่ ตั้งแต่สมัยที่มาเล่นมวย วันนั้นเขาเกือบที่จะโดนรุมประชาทัณฑ์เพราะไม่มีเงินจ่าย แต่ก็ได้ช่วยปลุกปั้นเพราะทราบว่า ฟ้าวันใหม่ หรือ “ต่อ” เป็นมวยมีฝีมือ จึงตัดสินใจที่จะสนับสนุนและปลุกปั้น
กระทั่งมาทราบความเคลื่อนไหวว่า ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ เตรียมที่จะล้มมวย ได้โทรไปหาทีมงานที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอให้หยุดซะ แต่ว่าไม่ทัน เพราะทางฟ้าวันใหม่ ได้โดนน็อกไปก่อน จากนั้นก็ได้เค้นความจริงจากทางฟ้าวันใหม่ ในตอนแรกเจ้าตัวปฏิเสธ แต่ได้สืบทราบความจริงจากเส้นทางบัญชี และพบอีกว่า ฟ้าวันใหม่ ได้มีการลงเดิมพันให้ตัวเองแพ้ด้วยเป็นจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท
“ตอนนั้น ผมโดนโซเชียลด่าเละเลยครับ หาว่าไปปรักปรำเขา สุดท้ายเค้นความจริง ก็เลยรู้ความจริง เรื่องที่ฟ้าวันใหม่ เปิดเผยว่า หากพูดความจริงจะโดนข่มขู่ อะไรแบบนี้ ถือเป็นข้ออ้างของนักมวยเท่านั้น”
ขณะที่ฟ้าวันใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ที่ติดต่อล้มมวยนั้น มาติดต่อซื้อน้ำพริกที่ทำขายออนไลน์ 2 ครั้ง ต่อมาผู้ว่าจ้างล้มมวยได้มารับของเอง บอกให้ขึ้นมาเอาเงินบนรถ ก่อนจะบอกว่าการชกกับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ สู้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจ้าง 5 แสนบาท ให้ล้มมวย ถ้าไม่เอาไม่เป็นไร แต่ห้ามบอกใคร ถ้าบอกใครจะมากระทืบ
ตอนแรกนั้น ฟ้าวันใหม่ ยอมรับว่ากลัวคำขู่และอยากได้เงินไปทำฟาร์มไก่ จึงรับข้อเสนอ โดยผู้ว่าจ้างโอนเงินให้ก่อน 3 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือรับหลังจากขึ้นชก ยอมรับว่า ในชีวิตของตัวเอง เคยล้มมวยมาแล้ว 3 ครั้ง ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4
“โบ๊ท” ณัฐเดช กล่าวว่า เท่าที่ทราบมานั้น คนที่เป็นผู้ว่าจ้าง เป็นเจ้าของค่ายมวยเกียรติพานทอง ซึ่งในวงการรู้กันดีว่ามีชื่อในเรื่องการล้มมวยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ ผู้ก่อเหตุได้หนีไปไม่สามารถติดต่อได้ ทางเดียวที่จะจบเรื่องนี้ก็คือ ทางผู้ว่าจ้างจะต้องได้รับโทษด้วยการจำคุกเท่านั้น ไม่มีการยอมความเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน ฟ้าวันใหม่ ได้นำเอาพานขันธ์ 5 เพื่อมาขอขมา “โบ๊ท” ณัฐเดช ก่อนที่โปรโมเตอร์จะกล่าวว่า ยินดีรับพานขันธ์ 5 ไว้ แต่เรื่องของคดี ต้องเป็นไปตามหลักฐานและกระบวนการ ไม่มีการยอมความ จะติดคุกก็ต้องติดคุก เพื่อเป็นบทเรียน
ฟ้าวันใหม่ กล่าวทิ้งท้ายในรายการว่าขอโอกาสอยากกลับไปใช้ชีวิต ไม่ขอติดคุก ซึ่ง “โบ๊ท” กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองไม่มีอำนาจ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล ถ้าฟ้าวันใหม่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการล่าตัวผู้กระทำผิด ก็อาจจะไม่ต้องติดคุกก็ได้
ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตั้งแต่มีพระราชบัญญัติมวยไทย เมื่อปี 2542 ยังไม่เคยจับกุมตัวผู้กระทำความผิดจากกรณีล้มมวยได้เลย ส่วนมากก็มักจบลงที่การยอมความหรือเกรงกลัวอำนาจอิทธิพล อยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง และยืนยันว่า ไม่มีการยอมความเด็ดขาด
พรบ. ฉบับนี้ บัญญัติบทลงโทษผู้กระทำผิดว่า ต้องถูกปรับเป็นเงิน 1 แสนบาท หรือ จำคุก 5 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ