“The Baby Shark” เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี พร้อมสู้ “Silent Sniper” ทาอิกิ นาอิโตะ นักชกจอมอึดจากแดนซามูไรในการคืนสังเวียนมวยไทยในศึก ONE: REVOLUTION วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564

หลังจากที่ไม่สามารถโค่นเจ้าบัลลังก์ มวยไทย รุ่นฟลายเวต อย่าง “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ในไฟต์ชิงแชมป์โลกครั้งล่าสุด (31 ก.ค. 63) เพชรดำ ก็กลับมาซุ่มซ้อมทำร่างกายอย่างเข้มข้นเพื่อรอวันคืนสังเวียนอีกครั้ง โดยครั้งนี้ เขาต้องเจอกับคู่แข่งชาวญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นนักสู้มากฝีมือและมีประสบการณ์ทั้งคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ทั้งยังมีอาวุธหมัดที่อันตรายและประมาทไม่ได้ด้วย

เพชรดำ ยอมรับว่าไม่ใช่งานง่าย แต่เขาเชื่อมั่นว่าการชกในกติกามวยไทยยังเป็นข้อได้เปรียบ เพราะเมื่อดูทักษะและประสบการณ์การชกมวยไทยของ ทาอิกิ แล้ว เพชรดำ มองว่าเขาเหนือกว่าคู่ต่อสู้อยู่หลายแต้ม

“ทาอิกิ เป็นมวยสไตล์คิกบ็อกซิ่ง 100 % ครับ มีความรวดเร็ว มีจังหวะสเต็ปการเข้าออกดี นอกจากนั้น ยังมีการเตะและหมัดที่คล่องแคล่วว่องไวมากครับ แม้เขาจะเคยชกมวยไทยและชนะในกติกานี้มาหลายครั้งใน ONE แต่เท่าที่ผมดู เขายังไม่ค่อยถนัดกับมวยไทยเท่าไหร่ ถ้าเปรียบเทียบฝีมือ ผมว่าผมได้เปรียบกว่าเยอะครับ”

นอกจากนี้ เพชรดำ ยังมั่นใจว่าไฟต์นี้เขาเตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อแก้เกมคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะการออกหมัดโดยมี “สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย” อดีตแชมป์โลก WBC รุ่น 115 ป. มาช่วยถ่ายทอดวิชาให้ นอกจากนี้ ทางค่ายเพชรยินดีฯ ยังใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาเสริมแกร่งพลังแข้ง “ซ้ายสโลว์ไลฟ์” ที่เป็นอาวุธเด็ดของ เพชรดำ อีกด้วย

แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ เพชรดำ มั่นใจมากที่สุดในตอนนี้คือ หัวใจนักสู้ของตนเองที่ไม่เคยเกรงกลัวกับความท้าทายตรงหน้าไม่ว่าจะมารูปแบบใด ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่เขาคว้าชัยมาได้เพื่อเป็นพลังใจให้เขาเดินหน้าสู่เป้าหมายต่อไป

“สำหรับไฟต์นี้ สิ่งที่ผมมั่นใจที่สุดคงจะเป็นหัวใจของผมครับ ผมไม่กลัวอะไร ผมพร้อมสู้เสมอไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ไหน และผมก็จะเอาชนะไฟต์ให้ได้เพราะมันจะเป็นการกู้ความมั่นใจของผมกลับคืนมาเพื่อไต่อันดับขึ้นแรงกิงมวยไทยอีกครั้ง”

“เพราะเป้าหมายสูงสุดของผมก็คือขึ้นท้าชิงกับ รถถัง อีกสักครั้ง และก็อยากจะทวงเข็มขัดแชมป์คิกบ็อกซิ่งคืนกลับมาให้ได้ครับ”