คามารู อุสมาน นักสู้เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวตชาวไนจีเรีย ยังคงทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งแลกอาวุธกับ โคลบี้ โคลวิงตัน รองแชมป์หมายเลข 1 ชาวอเมริกัน ก่อนเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ในคู่เอกของศึก UFC268 : Usman VS Covington ณ สังเวียน เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
“The Nigerian Nightmare” เจ้าของตำแหน่งชาวไนจีเรียวัย 34 ปีที่ชนะติดต่อกันมาแล้วถึง 18 ไฟต์ พบกับผู้ท้าชิงตัวอันตรายอย่าง “Chaos” ดีกรีรองแชมป์เบอร์ 1 วัย 33 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ โคลวิงตัน แพ้ TKO ครั้งแรก และครั้งเดียวให้ อุสมาน ในเดือนธันวาคม 2019
เปิดฉากยกแรกทั้งคู่ยังระวังตัว และทำอะไรไม่ถนัด สุดท้ายยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน โดย โคลวิงตัน เริ่มมีแผลแตกบริเวณใบหน้า เข้าสู่ยก 2 อุสมาน ยังมีอาวุธหนักหน่วง แถมช่วงปลายยก อุสมาน จะยิงซ้ายใส่ โควิงตัน ร่วงเสียอาการไปถึงสองครั้ง ส่วนยกที่ 3 แชมป์โลกทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ดันมาเสียสถิติป้องกันการเทคดาวน์จนได้ โดย โคลวิงตัน เทคดาวน์ได้สำเร็จ แต่ก็ปิดเกมไม่ได้
ยก 4 กลายเป็นผู้ท้าชิงที่มีฮึดออกอาวุธจนแชมป์โลกชาวไนจีเรียเจียนอยู่เจียนไปเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม โคลวิงตัน ก็เจอลูกบวกของ อุสมาน จนสะดุ้งเหมือนกัน เข้าสู่ยกสุดท้าย อุสมาน แก้เกมมาดี มีการออกอาวุธหนักๆขู่ใส่ โคลวิงตัน และควบเกมการต่อสู้จนครบ 5 ยก สุดท้ายกรรมการรวมคะแนน ก่อนชูมือให้ คามารู อุสมาน ป้องกันแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต ได้อย่างเป็นเอกฉันท์
หลังป้องแกันแชมป์ได้สำเร็จ อุสมาน ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของตัวเองว่า “มีการพูดคุยเรื่องไร้สาระมากมาย แต่สำหรับ โคลวิงตัน ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งมากๆ เราออกมาและเราต้องการที่จะแสดงให้เห็น และผมหวังว่าเราจะทำอย่างนั้นในคืนนี้ ผมเป็นนักสู้ที่ดีที่สุด หากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ในตอนนี้ ”
รองคู่เอกก็ยังมีเข็มขัดแชมป์โลกเป็นเดิมพันเช่นกัน โดยเป็นการชิงแชมป์โลกประเภทหญิงรุ่นสตรอว์เวตระหว่าง โรเซ นามาญูนาส เจ้าของตำแหน่งแชมป์ชาวอเมริกัน เชื้อสายลิธัวเนีย วัย 29 ปี ที่เปิดโอกาสให้ จาง เหว่ย ลี่ ผู้ท้าชิงชาวจีน ดีกรีรองแชมป์เบอร์ 1 ได้โอกาสแก้มืออีกครั้ง หลังจากที่ไฟต์ล่าสุด “Thug” หวดก้านคอจนนักสู้แดนมังกรหลับกลางอากาศแพ้ TKO ไปในยกที่ 2 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามผลการต่อสู้ไฟต์นี้ยังคงเป็นแชมป์โลกอย่าง โรเซ นามาญูนาส ที่ทำได้ดีและออกอาวุธได้ชัดเจนกว่า ก่อนจะเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์