“จูลี เมซาบาร์บา” นักสู้สาวแกร่งจากแดนแซมบาถูกส้มหล่นใส่เต็ม ๆ เมื่อได้รับสิทธิ์ให้เป็นคู่แข่งคนใหม่ของนักสู้สาวไทย “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ในรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง ที่จะมีขึ้นในศึก ONE: NEXTGEN ซึ่งจะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564

จูลี สร้างความตื่นตะลึงให้กับแฟน ๆ สายการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) เมื่อสามารถปราบ “เม ยามากูชิ” นักสู้สาวระดับตำนานจากแดนซามูไรด้วยคะแนนเอกฉันท์ในรอบแรกของศึกหญิงแกร่งครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนที่ จูลี จะลงฟาดปากกับ แสตมป์ ในศึกที่กำลังจะถึงนี้ เราอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเธอให้ดียิ่งขึ้น

จูลี เติบโตขึ้นมาใน ชาร์ดิง อเมริกา ซึ่งเป็นชุมชนที่ยากจนในเมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล พ่อของเธอเสียชีวิตลงเมื่อเธออายุได้เพียง 2 ขวบ และอาศัยอยู่ตามลำพังกับแม่ของเธอซึ่งเปิดร้านพิซซาเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว

จูลี รู้จักกับศิลปะการต่อสู้เป็นครั้งแรกในการฝึกคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งเธอตกหลุมรักกีฬาชนิดนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นและได้ขึ้นสังเวียนครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปี ต่อมาโค้ชของเธอแนะนำให้รู้จักครูสอน MMA ซึ่งทำให้เธอค้นพบประสบการณ์ใหม่และมุ่งมั่นที่จะเป็นนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานอาชีพตั้งแต่นั้นมา

จูลี พบรักกับอดีตสามีในค่ายฝึก MMA ต่อมาทั้งคู่ก็มีลูกชายด้วยกันชื่อ “ลอเรนโซ” แม้จะมีลูกแล้ว จูลี ยังคงมุ่งมั่นสานฝันการเป็นนักสู้อาชีพซึ่งทำให้สามีของเธอไม่พอใจจนกลายเป็นปัญหาครอบครัว สุดท้าย จูลี เลือกจบความสัมพันธ์เพื่อเดินตามความฝันและรับหน้าที่แม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่นั้นมา

ยังมีอีกหลายอย่างที่ จูลี เลือกจะทิ้งไว้เบื้องหลังเพื่อเดินหน้าตามฝันบนเส้นทางนักสู้ เธอตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยและปฏิเสธที่จะรับช่วงต่อกิจการร้านพิซซาของแม่ ทั้งที่มันสามารถสร้างฐานะที่มั่นคงให้เธอได้ โดยยังคงมุ่งมั่นคว้าฝันในการเป็นนักสู้อาชีพที่เก่งกาจให้ได้
แมตช์นี้สู้เพื่อลูก